‘ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580)’ ของประเทศ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและประเทศไทย 4.0 ในการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ องค์ความรู้ต่างๆ ทั้งทางด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและการสร้างสรค์ จึงถูกนำมาใช้ภายใต้งานวิจัย ที่มีการบูรณาการเชื่อมโยงกันเพื่อนำไปสู่การเสริมสร้างสังคม ประเด็นปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขที่ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถพัฒนางานวิจัยให้กลายเป็นกลไกการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เจริญก้าวหน้ามากนัก ดังนั้น การวิจัยจึงเป็นพันธกิจหลักสำคัญประการหนึ่งของมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการงานวิจัย งานสร้างสรรค์และการดำเนินการงานวิทยานิพนธ์และงานการค้นคว้าอิสระของนิสิตระดับบัณฑิตศึกษาให้มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างความร่วมมือของคณาจารย์ นักวิจัย และนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา ในการบูรณาการงานวิจัยกับการจัดการเรียนการสอน และพันธกิจอื่น ๆ เช่น การบริการวิชาการ หรือ การทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม ตลอดจนเพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้ตรงตามความต้องการของชุมชน สังคม และประเทศชาติ ซึ่งจะเป็นการตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ชาติอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีเวทีการนำเสนอผลงานและการเผยแพร่ผลงานการวิจัยและงานสร้างสรรค์ และผลงานวิทยานิพนธ์และงานการค้นคว้าอิสระของนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา เพื่อออกสู่ในระดับชาติ ได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานและสถานศึกษาต่างๆ ที่เข้าร่วมในการเสริมสร้างความรู้นำไปสู่ความได้เปรียบในการแข่งขัน ความเข้มแข็งทางสังคมภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรคไวรัส โคโรน่า (โควิด-19) ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโลก แต่การพัฒนาประเทศยังคงต้องเดินหน้าต่อไป งานวิจัยจึงเป็นการ “สร้างมูลค่า” ที่จะนำไปสู่การพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
จากความสำคัญข้างต้น เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน อาทิ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเอเซียอาคเนย์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ มหาวิทยาลัยเนชั่น วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น และเครือข่ายวิจัยประชาชื่น มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นจึงได้จัดให้มีการประชุมทางวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติขึ้น ปีละ 2 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็น ครั้งที่ 19 ในหัวข้อ “การบูรณาการความรู้และนวัตกรรม สู่งานวิจัยภายใต้การเปลี่ยนแปลงของโลกเพื่อสังคมที่ยั่งยืน”