เลือกเรียนปริญญาโทอย่างไรให้จบมามีงานทำ
สิ่งสำคัญที่สุดอันดับแรกสำหรับการเรียนต่อก็คือ รู้จักเป้าหมายของตัวเองว่าเราจะเรียนไปทำไม เพราะการเรียนโดยไร้เป้าหมายจะทำให้เสียเวลาและเสียเงิน และทำให้รู้สึกไม่ใช่หรือไม่ชอบ ดังนั้นเราควรกำหนดเป้าหมายสำหรับการเรียนว่าเราจะเรียนไปทำไมและเพื่ออะไร เพราะเป้าหมายที่แน่ชัดจะมีผลในการเลือกเรียนในหลักสูตรต่าง ๆ และทำให้เรามีกำลังใจที่จะลุกขึ้นมาเรียนในทุก ๆ วันด้วย
- รูปแบบการเรียน
โดยทั่วไปปริญญาโทจะมีให้เลือกเรียนได้สองแบบซึ่งก็คือภาคปกติและภาคพิเศษ โดยทั้งสองภาควิชานั้นจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่โครงสร้างหลักสูตรจะเหมือนกัน และต่อมาได้มีการเรียนอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจ คือ การเรียนออนไลน์
ภาคปกติ จะเป็นการเรียนวันจันทร์-ศุกร์ การเรียนจะไม่หนักเท่าภาคพิเศษ เพราะไม่ต้องมีวิชาเรียนอัดเกินไป การเรียนภาคปกติจะเหมาะกับคนที่มีเวลาว่างในวันปกติ คนที่ยังไม่ได้ทำงาน เป็นต้น
ภาคพิเศษ จะมีความแตกต่างกับภาคปกติคือ มีการเรียนการสอนในวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนค่าหน่วยกิตจะแพงกว่าการเรียนภาคปกติถึง 3 เท่า ภาคพิเศษจะเหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานประจำเพราะมีเวลาจำกัดในการเรียน
เรียนแบบออนไลน์ จะเรียนผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ด้วยวิธีการสอนสด แต่แค่ไม่ต้องมานั่งเรียนในห้องเรียน จะเรียนที่ไหนก็ได้ ถึงแม้ว่าวันนั้นเรามีเรียนแต่ติดธุระสำคัญ ก็สามารถเข้ามาเรียนย้อนหลังได้เหมือนเดิม
- โครงสร้างหลักสูตร
โดยปกติแล้วหลักสูตรปริญญาโทจะมีให้เลือกด้วยกันอยู่ 3 แบบ แผน ก1, ก2, และแผน ข ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้มีความต่างกันทั้งวิชาเรียน ความเข้มข้นและรูปแบบการเรียน
แบบแผน ก1 คือหลักสูตรที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญหรืออาจารย์ในสาขาวิชานั้นๆ โดยหลักสูตรแบบ ก1 จะไม่มีการเรียนการเรียนการสอน แต่จะมุ่งเน้นให้ผู้เรียนใช้เวลาไปกับการทำวิทยานิพนธ์เท่านั้น ทำให้หลักสูตร ก1 ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
แบบแผน ก2 จะมีความต่างจากแบบแผน ก1 ก็คือ มีการเพิ่มการเรียนการสอนให้เพื่อปรับพื้นฐานและความรู้ให้กับผู้เรียน เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้เหล่านั้นไปทำวิทยานิพนธ์ได้ การเรียนแบบแผน ก1 จึงเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจแต่ไปเป็นอาจารย์แต่ต้องการเสริมความรู้ให้มากขึ้น
แบบแผน ข จะคล้ายคลึงกับแบบแผน ก2 แต่จะมีความเข้มข้นน้อยของเนื้อหาน้อยกว่าการเรียนแบบ แผน ก และไม่ต้องทำวิทยานิพนธ์เพื่อจบการศึกษา แต่ต้องทำเป็นสารนิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระแทน การเรียนแบบแผน ข จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการนำความรู้ที่ได้จากการเรียนไปประยุกต์ใช้ในการทำงานประจำ
- ดูความต้องการของตลาด
เลือกเรียนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ในอนาคตบางสาขาวิชาอาจถูกยุบหรืออาจจะมีสาขาวิชาใหม่ ๆ เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ดังนั้นสิ่งนึกที่เราควรคำนึงก็คือความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคตอีก 2-5 ปี ว่ามีแนวโน้มหรือขาดแคลนแรงงานในด้านใด เพราะคงไม่มีใครอยากที่จะเรียนจบมาแล้วไม่มีงานทำ
แนะนำคณะน่าสนใจ
- MBA or Master of Business Administration
- Business and Management
- Marketing
- Business Analystics
- Law
- Engineering
- Finance
- Hospitality and Tourism
- Social science
- Arts and Design
- เตรียมตัววางแผนล่วงหน้า
หากเราเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีการเรียนจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ดังนั้นสิ่งที่ต้องเตรียมตัวก็คือ
เตรียมตัวเรื่องภาษาอังกฤษเพราะหนังสือและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนมากเป็นภาษาอังกฤษแทบจะทั้งหมด ภาษาไทยก็มี แต่น้อยมาก บางหัวข้อแทบไม่มี แถมบางหัวข้อก็ไม่มีข้อมูลที่ทันยุคทันสมัยมากพอ เก่าเกินไปที่จะใช้อ้างอิง
เตรียมหัวข้อวิทยานิพนธ์ไว้ก่อน เพราะเวลาในการเรียนปริญญาโทนั้นสั้นและหากไม่ได้คิดหัวข้อที่อยากจะทำไว้ก่อนจะทำให้การเรียนจบใช้เวลาและแรงกายมากกว่าเดิมและเตรียมตัวรับมือกับความท้อแท้ พบได้บ่อยครั้งที่ผู้เรียนต่อในระดับปริญญาโทต้องเผชิญหน้ากับความท้อแท้ ยิ่งถ้าต้องทำงานไปด้วย เรียนควบคู่ไปด้วยจะยิ่งเหนื่อยมากกว่าเดิม เพราะบางคนก็ห่างหายจากการร่ำเรียนไปนาน พอเจออะไรที่มันกดดันมาก ๆ เลยยิ่งเหนื่อย ให้นึกถึงเป้าหมายของตัวเองในการมาเรียนจะได้มีไฟในการเรียนมากขึ้น
เตรียมตัวเรื่องเวลา การเรียนต่อในระดับปริญญาโทขึ้นไป อาจารย์ในมหาวิทยาลัยจะถือว่าเราเป็นผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยจะไม่จ้ำจี้จ้ำไชเรา ทำให้เราต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น จัดสรรเวลาให้ดี ถ้าบริหารเวลาพลาดเราอาจพังไปทั้งหมดจนต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ก็เป็นไปได้
- Parida Ouamsaoad